• Uncategorized

    ซื้อโตโยต้า Alphard ที่ไหนดี

    All New Toyota Alphard และ All New Toyota Vellfire นั้นเป็นรถตู้อเนกประสงค์ไสตล์ Luxury ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย ซึ่งในปีนี้ Toyota ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดถึง 3 รุ่น

    ซึ่งจัดจำหน่ายผ่านศูนย์บริการ Toyota Motor Thailand และยังมีบริษัทนำเข้ารถอิสระ ที่ได้นำรถ All New Toyota Alphard รุ่นใหม่ เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งจะมีที่ไหนบ้าง Chiang Mai Alphard ยินดีที่จะแนะนำให้กับทุกท่านดังนี้

    1. Toyota Motor Thailand (ตัวแทนจำหน่าย Toyota ทั่วประเทศ) โทร 1486

    2. Eton Group โทร 02-789-9998

    3. TSL Auto โทร 02-269-9999

    4. Spyder Auto Import โทร 02-746-9917

    5. Teddy Auto Sale โทร 02-399-1111

    6. BRG Group โทร 02-318-2222

    7. CARLOFT AUTO IMPORT โทร 02509-0999

    8. Wizauto โทร 02-718-3909

    9. Charoensri Zenith AUTO Import โทร 02-314-7751

    10. Sakura Auto Sales โทร 02-077-9248

  • Uncategorized

    All New Toyota Alphard

    Toyota Alphard ใหม่ที่แฟนๆทุกคนรอคอยได้เปิดตัวแล้วครับ ซึ่งเปิดตัวในปี 2023 นี้ โดยโฉมใหม่นี้เป็น Generation ที่ 4 ของ Alphard

    บนโครงสร้างที่ได้รับการออกแบบมาใหม่แบบ TNGA ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด 2.5 ลิตร และช่วงล่างขับเคลื่อนด้วยระบบ E-Four ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีอัตราการบริโภคน้ำมันสุดประหยัดที่ 17.9 กิโลเมตร/ลิตร สำหรับ

    All New Toyota Alphard ที่ Toyota ทำตลาดในประเทศไทย มีวางจำหน่ายทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่

    1. Toyota Alphard 2.5 HEV ราคา 4,129,000 บาท

    2. Toyota Vellfire 2.5 HEV ราคา 4,279,000 บาท

    3. Toyota Alphard 2.5 HEV E-FOUR Exclusive Lounge ราคา 4,499,000 บาท

    ถ้าหากอยากลองสัมผัส All New Toyota Alphard 2023 ทาง Chiang Mai Alphard ก็มีให้บริการในราคาพิเศษ สุดคุ้มค่านะคะ ติดต่อจองใช้บริการได้ที่ 088 880 8668

  • Uncategorized

    รู้จักกับประเภทของแบตเตอร์รี่รถยนต์

    แบตเตอร์รี่ในรถยนต์ที่ใช้งานกันทั่วไปมีอยู่หลายประเภท ลองมาทำความรู้จักกับแบตเตอร์รี่ประเภทต่าง ๆ กันนะคะ.

    1. แบตเตอร์รี่แบบน้ำแบตเตอร์รี่แบบน้ำ เป็นแบตที่มีตะกั่วกรดซึ่งใช้งานกับรถยนต์ทั่วๆไป มีช่องสำหรับเติมน้ำกลั่นอยู่ด้านบน ซึ่งแบตเตอร์รี่นี้ ต้องมีการตรวจสอบและเติมน้ำกลั่นอยู่เสมอ จึงจะทำให้การใช้งานของแบตมีอายุยาวนาน

    2. แบตเตอร์รี่แบบแห้งแบตเตอร์รี่แบบแห้ง เป็นแบตเตอร์รี่ที่ออกแบบมาแบบไม่ต้องเติมน้ำกลั่น ง่ายต่อการใช้งานและเหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาตรวจสอบหรือดูแลรถเท่าที่ควร แต่ข้อเสียคือจะมีราคาที่สูงกว่าแบตเตอร์รี่แบบน้ำพอสมควร

    3. แบตเตอร์รี่แบบกึ้งแห้งแบตเตอร์รี่แบบกึ่งแห้ง เป็นแบตเตอร์รี่แบบน้ำแต่ระยะเวลาในการเติมน้ำกลั่นนั้นยาวนานมากกว่าแบบน้ำธรรมดาพอสมควร ราคาปานกลางไม่แพงเท่าแบบแห้ง

    4. แบตเตอร์์รี่แบบไฮบริดแบตเตอร์์รี่แบบไฮบริด พัฒนามาจากแบตเตอร์รี่แบบน้ำ การใช้งานคล้ายๆแบตเตอร์รี่แบบกึ่งแห้ง แต่แตกต่างที่วัสดุที่ใช้ในแบตเตอร์รี่ ซึ่งประกอบด้วยโลหะผสมระหว่างตะกั่วกับแคลเซี่ยมเฉพาะแผ่นธาตุลบ ทำให้แบตแบบนี้นั้นไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยครั้ง

    5. แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน เป็นแบตรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนามาให้มีขนาดเล็กแะประสิทธิภาพสูงกว่าแบตแบบเก่า สามารถชาร์จในเวลาที่รวดเร็วและสามารถให้พลังงานได้ยาวนานมากกว่าแบตทั่วๆไป จ่ายไฟได้อย่างสเถียรและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมต่างๆอีกด้วยเนื่องจากไม่มีน้ำกรดหรือสิ่งต่างๆที่เป็นอันตรายต่อธรรมชาติเป็นส่วนประกอบ

    6. แบตเตอร์รี่แบบเจลแบตเตอร์รี่แบบเจลเป็นแบตเตอร์รี่รุ่นใหม่ที่พัฒนาจากแบตแบบเก่าให้เพิ่มประสิทธิ๓าพการเก็บไฟได้มากกว่าเดิมราว 20% ซึ่งแบตตัวนี้นั้นไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีอายุการใช้งานที่ยาวนานมากกว่า และทนทาน

    7. แบตเตอร์รี่ AGMแบตเตอร์รี่ AGM เรามักจะได้ยินแบตเตอร์รี่ชนิดนี้ซึ่งส่วนมากใช้กับรถยุโรป เป็นแบตเตอร์รี่ที่เหมาะสำหรับรถที่มีเทคโนโลยีและออฟชั่นต่างๆที่เยอะกว่าปกติ และล้ำสมัย เพราะมีค่าแอมป์ที่ค่อนข้างสูงและจ่ายไฟที่สเถียรมาก ทนทานต่อการคายประจุ อีกทั้งยังสามารถทำการชาร์จไฟกลับเข้าแบตในระยะเวลาอันสั้น จึงเหมาะแก่รถยุโรปรุ่นใหม่ๆ

  • Uncategorized

    วิธีจั้มแบตรถยนต์

    เวลารถยนต์แบตหมด

    สิ่งที่เราต้องทำในเวลาฉุกเฉินนั้นคือการจัมพ์แบตเตอร์รี่ ซึ่งหลายๆท่านอาจจะยังไม่ทราบวิธีการจัมพ์แบตเตอร์รี่ที่ถูกต้อง วันนี้ Chiang Mai Alphard เรามีวิธีแนะนำการจัมพ์แบตที่ถูกต้องมาฝากกันครับ

    1. นำสายจัมพ์แบตสีแดงเสียบเข้ากับขั้ว + ของรถที่แบตหมดก่อน แล้วจึงนำสายสีแดงเส้นเดียวกันเสียบเข้ากับขั้ว + ของรถที่นำมาจัมพ์แบต

    2. นำสายจัมพ์สีดำเสียบเข้ากับขั้ว – ของรถที่นำมาจั้มพ์แบต หลังจากนั้นจึงนำสายจัมพ์สีดำเส้นเดียวกันเสียบเข้ากับโลหะเปลือยของตัวรถ ของคันที่แบตหมด

    3. สตาร์ทรถคันที่นำมาจัมพ์แบตแล้วรอสักครู่

    4. สตาร์ทรถคันที่แบตหมดแล้วอุ่นเครื่องทิ้งไว้สักครู่ ค่อยถอดสายจัมพ์แบต

    5. ถอดสายจั้มพ์ต้องถอดตามลำดับย้อนกลับ โดยเริ่มถอดจากสายสีดำขั้ว – ที่เราเสียบหลังสุดก่อน ถัดไปเป็นสายสีดำขั้ว – ที่เสียบกับรถที่มาจั้มพ์แบต ถอดสายสีแดงจากรถที่นำมาช่วยจัมพ์แบตและสุดท้ายถอดสายสีแดงจากรถคันที่แบตหมด เป็นอันเรียบร้อย

    ข้อควรระวัง ในการจัมพ์แบตเตอร์รี่

    1. ระวังไม่ให้สายสีแดงและสีดำมาสัมผัสกันได้ เนื่องจากอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้

    2. ระวังไม่ก่อประกายไฟหรือความร้อนใกล้ๆรถ

    3. ห้ามพ่วงสายแบตสลับเส้นโดยเด็ดขาด